ตำรวจ เรียก ลุงพล รับทราบข้อหา ฆ่าคนตายโดยเจตนา คดีน้องชมพู่ หลังจากที่ลุงพลได้รับประกันตัวเมื่องช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.กกตูม เตรียมเชิญตัวนายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีน้องชมพู่ เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ที่เสียชีวิตตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคม ปี 2563 ที่ผ่านมา เพื่อมารับทราบข้อหาเพิ่มเติม อีก 1 ข้อหา คือ ฆ่าคนตายโดยเจตนา หลังพบหลักฐานบางอย่างในคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่
โดยก่อนหน้านี้ ศาลจังหวัด มุกดาหาร ได้อนุมัติหมายจับ ลุงพล สามข้อหาด้วยกัน
ได้แก่ พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดา, ทอดทิ้งเด็กอายุไม่เกิน 9 ปี เพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตน โดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแล เป็นเหตุให้เด็กถึงแก่ความตาย และ กระทำการใดๆแก่ศพหรือสภาพแวดล้อมใน บริเวณที่พบศพ ก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ใน ประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทาง คดีเปลี่ยนแปลง
ทั้งนี้ ศาลจังหวัดมุกดาหาร ให้ประกันตัว ลุงพล ผู้ต้องหาตามหมายเรียกคดีฆาตกรรมน้องชมพู่ ด้วยหลักทรัพย์ 1.8 แสนบาท ในเวลาต่อมา
พล.ต.อ.สุชาติ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ตำรวจยังอยู่ในระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานหามูลเหตุการกระทำผิดว่า มาจากการรีดเงินหรือว่าพยายามหายาเสพติด เพราะต้องสอบปากคำตำรวจที่ตกเป็นผู้ต้องหาทั้ง 5 คนก่อน แต่พฤติการณ์เหมือนพยายามหายาเสพติด ส่วนเรื่องการรีดเงินเป็นเพียงข้อมูลที่สื่อรับฟังมาจากผู้ที่ส่งข้อมูลมาให้
จากการสอบปากคำภรรยาผู้ตา ให้การยืนยันว่า วันเกิดเหตุไม่ได้นำยาเสพติดมาด้วย ส่วนวันดังกล่าวมาพบตำรวจได้อย่างไร มีการสอบปากคำไว้แล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ จากการตรวจสอบประวัติผู้ตายย้อนหลัง พบเคยถูกจับกุมในข้อหาครอบครองยาเสพติด เมื่อนานมาแล้ว
สำหรับตำรวจอีก 2 นาย ที่ยังหลบหนี เรามีข้อมูลอยู่แล้ว ส่วนจะหลบหนีไปต่างประเทศหรือไม่ ยังบอกไม่ได้ แต่ยืนยันว่าจะอยู่ที่ไหนก็ต้องจับ ผบ.ตร.บอกแล้วว่ายังไงก็ต้องจับมาให้ได้
เมื่อถามว่าจะต้องจับตายหรือไม่ พล.ต.อ.สุชาติ กล่าวว่า เขาไม่ได้ต่อสู้อะไร เมื่อถามต่อว่าอยากส่งสัญญาณอะไรถึงผกก.โจ้หรือไม่ พล.ต.อ.สุชาติ กล่าวว่า ไม่ฝากแล้ว
ดีอีเอส เตรียมแถลงกรณี รถผู้กำกับโจ้ 13.30 น. หลังอยู่ในคดีรถหรูเลี่ยงภาษี
ดีอีเอส เผยว่าเตรียมถึงกรณีของ รถผู้กำกับโจ้ ในช่วงบ่ายของวันนี้ หลังจากรถลัมโบร์กีนีเกี่ยวข้องกับคดีหลบเลี่ยงภาษี สำแดงใบอินวอยซ์ต่ำกว่าความจริง พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เตรียมแถลงต่อสื่อมวลชนในกรณีที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ลัมโบร์กีนีของผู้กำกับโจ้ เวลา 13.30 นี้ หลังจากที่รถคันดังกล่าว อยู่ในคดีรถหรูหลบเลี่ยงภาษี สำแดงใบอินวอยซ์ในราคาต่ำกว่าความเป็นจริง
สำหรับคดีดังกล่าว รายงานข่าวเปิดเผยว่า ในชั้นสอบสวนดีเอสไอพบว่า ผกก.โจ้ ซื้อรถยนต์ลัมโบร์กีนี มาจากตัวแทนผู้จำหน่ายรถยนต์ในประเทศไทย แต่ในขั้นตอนนำเข้าบริษัทสำแดงใบอินวอยซ์เท็จ ประกอบการนำเข้ารถยนต์ลัมโบร์กีนีจำนวนมาก ต่อมาดีเอสไอทยอยสรุปสำนวนสั่งฟ้องคดี
โดยรถยนต์ในชื่อครอบครองของ ผกก.โจ้ พนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนโดยมีความเห็นสมควรสั่งฟ้อง เสนอไปยังสำนักงานอัยการสูงสุดแล้ว ในทางปฏิบัติจะให้ผู้ครอบครองเก็บรักษารถยนต์ไว้จนกว่าคดีจะถึงที่สุด
สื่อต่างชาติ ทั้งในอังกฤษ, ญี่ปุ่น และ สหรัฐอเมริกา ต่างร่วมตีข่าว ผู้กำกับโจ้ หลังก่อเหตุฉาวใช้ถุงคลุมหัวผู้ต้องหาจนเสียชีวิต จากกรณีกระแสข่าวของคดีของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้ และ พวกใช้ถุงคลุมผู้ต้องหายาเสพติดจนเสียชีวิต และกลายเป็นที่สนใจอย่างมากทั่วประเทศไทยนั้น ล่าสุดสำนักข่าวชื่อดังในหลายแห่งก็ได้รายงานถึงคดีดังกล่าวเช่นเดียวกัน
ยกตัวอย่างเช่นสำนักข่าว BBC สำนักข่าวยักษ์ใหญ่ในประเทศอังกฤษที่พาดหัวว่า “ตำรวจตามล่า ผู้กำกับตำรวจไทย ที่รู้จักกันชื่อ โจ้ เฟอรารี หลังคลิปทรมานผู้ต้องหากลายเป็นคลิปไวรัล”
ด้านสื่อสหรัฐฯ อย่าง ABC และ วอชิงตันโพสต์ เองก็จับกระแสข่าวนี้เช่นเดียวกัน โดยในสื่อสหรัฐฯได้มีการบรรยายว่า ข้อกล่าวหาเรื่องการใช้ความรุนแรงและการทุจริตไม่ใช่เรื่องที่หายากในประเทศไทย
ขณะเดียวกันเพจเฟซบุ๊ก ฮอกไกโดแฟนคลับ ก็ได้โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กระบุว่า “ญี่ปุ่นลงข่าวตำรวจระดับผู้กำกับของไทยทำร้ายผู้ต้องหาจนเสียชีวิตและมีการเรียกเงิน6.6 ล้าน เยน เพื่อแลกกับการปล่อยตัว” โดยเป็นสถานี tokaiTV เป็นคนรายงาน
ตำรวจ สอบพ่อเหยื่อ ผู้กำกับโจ้ ถุงคลุมหัวดับคาโรงพัก ล่าสุดจ่อโดนหมายจับด้วย ให้การเท็จ หลังเคยบอกลูกชายน็อคยา เสียชีวิตเพราะมีโรคประจำตัว
ภายหลังจากที่วานนี้ (25 ส.ค.64) ชุดสืบสวนเดินทางไปยังบ้านพักของพ่อผู้เสียชีวิต ที่อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ เพื่อสอบสวนเรื่องประเด็นเงิน 5 ล้านบาท ที่มีการกล่าวอ้างว่า มีการจ่ายสินบนเพื่อปิดคดี
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป