พ่อคนหนึ่งอยู่ดีๆก็ตกเป็นหนี้ 6 แสนบาท หลังลูกสาวใช้บัตรเครดิตพ่อในการไข กาชา เกนชิน อิมแพ็ค ในการหาตัวละครในเกม เมื่อวันที่ 2 มกราคม สำนักข่าว เดอะสเตรทไทมส์ รายงานว่า คุณพ่อวัย 56 ปีต้องตกเป็นหนี้มูลค่ากว่า 6 แสนบาท หลังลูกสาวใช้เครดิตการ์ดของตนในการเติมเงินในเกม เกนชิน อิมแพ็ค เกมจีนชื่อดังและเป็นที่นิยมอย่างมาก
โดยชายคนดังกล่าวให้สัมภาษณ์ว่า
ตอนแรกเขาได้รับแจ้งว่าเขาไม่ได้จ่ายค่าเครดิตการ์ดมูลค่าดังกล่าว และตอนแรกเขาคิดว่าจำนวนเม็ดเงินที่มหาศาลนี้เป็นความพยายามของมิจฉาชีพที่พยายามจะหลอกตน อย่างไรก็ตามเขาได้ติดต่อกับบริษัทเครดิตการ์ดและพบว่าการใช้จ่ายนั้นเกิดขึ้นจริง
อย่างไรก็ตามเขาก็พบว่าผู้อยู่เบื้องหลังหนี 6 แสนบาทคือลูกสาววัย 18 ปีของตน ที่จ่ายเครดิตการ์ดผ่านแอปฯ Grab ซึ่งเครดิตการ์ดของพ่อผูกไว้กับแอปดังกล่าว เพื่อที่จะให้ลูกสาวใช้จ่ายเป็นค่าเดินทาง
ผู้เป็นพ่อยังได้ให้สัมภาษณ์อีกว่า เขาได้ต่อว่าลูกสาวของตน และบอกเธอว่าจำนวนเงินที่เธอใช้เป็นจำนวนเงินมหาศาล โดยเฉพาะหากเธอที่อยากเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยในต่างประเทศ
ด้าน Mihoyo ซึ่งเป็นบริษัทผู้พัฒนา เกนชิน อิมแพ็ค ยังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ขณะที่โฆษกของ Grab กล่าว และเสริมว่าบริษัทได้ติดตามผลของคดีนี้แล้ว
เกนชิน อิมแพ็ค นั้นใช้ระบบ “กาชา” ซึ่งเป็นระบบสุ่มไอเทมหรือตัวละครที่สามารถจ่ายด้วยเงินจริงหรือจ่ายด้วยค่าเงินในเกม โดยส่วนใหญ่ระบบกาชานั้น ไม่มีการการันตีว่าผู้ใช้จะได้ของที่ต้องการหรือไม่ อย่างไรก็ตามหลายเกมที่ใช้ระบบนี้ได้ตั้งเพดานเอาไว้ว่า ผู้เล่นสามารถแลกของที่ต้องการได้ หากไขหากาชาถึงจำนวนที่กำหนด
กลายเป็นที่พูดถึงในสื่อสังคมออนไลน์เป็นอย่างมาก หลังจากที่ทางการ จีน ลงโทษ ผู้ละเมิดกฎโควิด 4 รายด้วยการ เดินประจาน รอบเมือง
เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม สำนักข่าว ABC รายงานว่า ทางการจีนได้ลงโทษผู้ละเมิดมาตรการโควิดจำนวนสี่คนด้วยการจับเดินประจานรอบเมือง ไป่เซ ตอนใต้ของมณฑลเจียงซี หลังจากที่ทั้งสี่ถูกกล่าวหาว่าแอบลักลอบนำผู้อพยพเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย เนื่องจากในขณะนี้ชายแดนทางบกของจีนยังคงปิดตัวเพื่อป้องกันโควิด-19
โดยทั้งสี่สวมชุดป้องกันเชื้อ สวมหน้ากากอนามัย และ เฟสชิว ซึ่งพวกเขาถูกสั่งให้แขวนป้ายที่มีหน้าและชื่อของพวกเขา ก่อนจะเดินรอบเมือง ท่ามกลางความสนใจของประชาชนเป็นจำนวนมาก ซึ่งผู้ต้องสงสัยแต่ละคนถูกประกบด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสองนาย ซึ่งเจ้าหน้าที่สวมชุดป้องกันจลาจล และมีรายงานว่าบางคนถือปืนด้วย
อย่างไรก็ตามการลงโทษครั้งนี้ได้นำไปสู่การพูดคุยและวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก แม้ว่าจะมีบางส่วนเห็นด้วยก็ตาม โดยหลายฝ่ายมองว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน และบางฝ่ายชี้ว่าเป็นกฎหมายที่ล้าหลัง เพราะหากย้อนกลับไปในปี 2523 ทางการจีนได้สั่งแบนการลงโทษแบบดังกล่าว
ขณะนี้ประเทศจีนยังคงใช้มาตรการป้องกันโควิดที่เข้มงวด และพยายามกดตัวเลขผู้ป่วยโควิดให้เป็นศูนย์ ซึ่งมาตรการที่จีนใช้ต่างออกไปจากหลายชาติ เนื่องจากหลายๆชาติพยายามปรับนโยบายเป็นการพยายามใช้ชีวิตอยู่กับโควิดแทน
ในวันนี้ทางการจีนพบผู้ป่วยโควิดรายใหม่ 207 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมมีมากกว่า 100,000 ราย ขณะที่มีผู้เสียชีวิตจากโควิดแล้วกว่า 4,600 ศพ
ตร.รวบ หนุ่มพกปืน วางแผน ลอบสังหาร ‘โจ ไบเดน’ อ้างพระเจ้าสั่งมา
เจ้าหน้าที่ตำรวจในประเทศสหรัฐอเมริกา เข้าจับกุมชายวัย 25 ปี หลังพบปืนในรถ เจ้าตัวเผยวางแผนเตรียม ลอบสังหาร โจ ไบเดน เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม สำนักข่าว RT ระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าจับกุมชายจากรัฐแคลิฟอร์เนียที่กำลังจะบุกทำเนียบขาวพร้อมกับอาวุธปืนไรเฟิล โดยชายคนดังกล่าวระบุว่า เขาวางแผนจะลอบสังหารนาย โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ พร้อมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่นๆ
โดยชายคนดังกล่าวถูกเจ้าหน้าที่จับกุมขณะกำลังขับบนทางด่วนและมุ่งหน้าไปยังทำเนียบขาว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้เรียกชายคนดังกล่าวให้หยุดรถ เนื่องจากเขามีพฤติกรรมขับรถอันตราย เมื่อตรวจสอบรถก็พบอาวุธปืน กระสุนปืน รวมถึงชุดเกราะอยู่ภายในรถ นอกจากนี้จากการตรวจสอบยังพบว่าชายคนนี้ได้ตั้ง GPS ไปยังทำเนียบขาวจริง
ผู้ก่อเหตุวัย 25 ปีได้ให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า พระเจ้าได้ติดต่อกับเขาเพื่อให้เขาต่อสู้กับปีศาจที่ชั่วร้ายในทำเนียบขาว ซึ่งเขาได้ระบุว่าเป้าหมายสังหารของเขามี โจ ไบเดน, บารัค โอบามา และ บิน คลันตัน สองอดีตประธานาธิบดี, มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก ประธานกรรมการบริหารของเฟซบุ๊ก รวมถึง แอนโธนี เฟาซี เจ้าหน้าที่แพทย์ที่มีตัวแทนของการต่อสู้กับโควิด-19
ซึ่งผู้ก่อเหตุยืนยันว่าหากเขาได้รับการปล่อยตัวเมื่อใด เขาจะปฏิบัติภารกิจของเขาให้ลุล่วงทั้งนี้ชายคนดังกล่าวได้ถูกควบคุมตัวและถูกคุมขังในเรือนจำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ฯ มีความจำเป็นที่จะต้องแยกโอไมครอนสายพันธุ์ต่างๆออกจากกันให้ได้อย่างรวดเร็ว ภายใน 24-48 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็น BA.2, BA.4, BA.4.6, BA.5, BA.2.12.1, BA.2.75, BA.2.75.2 ฯลฯ เพราะการรักษาโควิด-19 เริ่มมีลักษณะมุ่งเป้า (precision medicine) มากขึ้นเป็นลำดับ ต่างจากการรักษาในช่วงต้นของการระบาดในปี 2019 ซึ่งผู้ป่วยทุกรายรักษาเหมือนกัน (One-size-fits-all)
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป